การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
มีชื่อเรียกโดยย่อว่า โรค STD (Sexually Transmitted Disease) เกิดจากการติดต่อผ่านกันทางเพศสัมพันธ์ กับผู้ที่มีเชื้อโรคนั้นๆ
เชื้อโรคที่ก่อให้เกิดโรคนี้ แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ
- เชื้อไวรัส ได้แก่ เริม (Herpes Simplex),หูดหงอนไก่ (Papilloma Virus หรือ HPV),เอดส์ (HIV)
- เชื้อแบคทีเรีย ได้แก่ หนองในแท้ (Gonorrhea),หนองในเทียม (Chlamydia),ซิฟิลิส (Syphilis)
- เชื้ออื่นๆ ได้แก่ เชื้อพยาธิ (Trichomanas),เชื้อรา (Candida)
อาการของโรคที่พบได้ คือ
- มีตกขาวผิดปกติ หรือตกขาวเรื้อรังเป็นๆหายๆ
- ตกขาวมีกลิ่น มีอาการคัน หรือระคายเคือง
- มีตุ่ม มีผื่น หรือแผล บริเวณอวัยวะเพศ
- ปัสสาวะแสบขัด
- เชื้อบางชนิด อาจไม่แสดงอาการในระยะแรก หรือบางระยะโรค เช่น หูดหงอนไก่ชนิดที่ก่อมะเร็งปากมกลูก (High risk group HPV),เริม,เอดส์,ซิฟิลิสบางระยะ เป็นต้น
วิธีการป้องกันโรค
- ใช้ถุงยางอนามัย
- ไม่เปลี่ยนคู่นอน
- ไม่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เสี่ยงโรค
- รักษาความสะอาด ร่างกายและอวัยวะเพศ
- ตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ
- ศึกษาเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- ปรึกษาแพทย์ เมื่อมีอาการผิดปกติ หรือสงสัยว่าติดต่อโรค
การตรวจวินิจฉัยโรค
ควรพบแพทย์ เพื่อปรึกษาตรวจร่างกาย หรือตรวจภายในสตรี เพื่อค้นหาโรค เช่น ตุ่มเริม,หูดหงอนไก่,เชื้อรา แพทย์จะนำตกขาว หรือสิ่งคัดหลั่งในช่องคลอด และปากมดลูก ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ได้แก่ ตรวจหาเชื้อรา,เชื้อพยาธิในช่องคลอด(Wet Smear หรือ เชื้อหนองในแท้,หนองในเทียม) โดยการตรวจ PCR หรืออาจทำการตรวจเลือด เพื่อหาปฏิกิริยาต่อเชื้อนั้นๆ เช่น ซิฟิลิส หรือเอดส์ (HIV)เป็นต้น สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจได้ตั้งแต่ยังไม่มีอาการ