ท่าออกกำลังกาย ลดพุง ลดไขมันหน้าท้อง

ปัญหาไขมันหน้าท้องอาจเป็นปัญหากวนใจหลาย ๆ คน อาจทำให้ต่อชีวิตประจำวันได้ซึ่ง  ไขมันเหล่านี้อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของเรา อาจนำไปสู่โรคร้ายแรงบางอย่าง เช่น น้ำตาลในเลือดสูง คอเรสเคอรอลสูง ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ ดังนั้นการสลายไขมันหน้าท้อง หรือลดพุง จึงเป็นเรื่องสำคัญ ในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปออกกำลังกายลดพุงด้วยท่าออกกำลังกายลดพุง ลดไขมันหน้าท้องกันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลยค่ะ

ท่าออกกำลังกาย ลดไขมันหน้าท้อง

ปัจจัยที่ทำให้การลดพุงสำเร็จเร็วขึ้น

ก่อนอื่นเราต้องมาดูกันก่อนว่า อะไรบ้างที่ทำให้เราลดพุง ลดไขมันหน้าท้องได้สำเร็จขึ้น

1. รับประทานไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้

ไฟเบอร์หรือเส้นใยอาหารที่สามารถละลายน้ำได้ จะดูดซับน้ำและสร้างเจลที่ช่วยให้อาหารช้าลงเมื่อผ่านระบบย่อยอาหารของเรา ทำให้อาหารเคลื่อนตัวไปสู่ลำไส้ได้ช้า ทำให้อิ่มนาน นอกจากนี้ไฟเบอร์ที่ละลายน้ำยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลได้ดี ยิ่งไปกว่านั้นไฟเบอร์ที่ละลายน้ำอาจช่วยลดไขมันหน้าท้องได้ ซึ่งแหล่งไฟเบอร์ที่ดีเยี่ยมได้แก่

  • ผลไม้
  • ผัก
  • พืชตระกูลถั่ว
  • ข้าวโอ๊ต

ไฟเบอร์หรือเส้นใยที่ละลายน้ำได้จะมีส่วนช่วยให้ลดน้ำหนักโดยการเพิ่มความอิ่มและลดการดูดซึมแคลอรี่

2. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันทรานส์

ไขมันทรานส์ ได้แก่ เนยขาว เนยเทียม วิปครีม ครีมเทียม น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันที่ใช้ทอดซ้ำ และเบเกอรี่ต่าง ๆ เพื่อลดพุง ลดไขมันหน้าท้อง ควรอ่านฉลากส่วนผสมอย่างระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีไขมันทรานส์ เหล่านี้

3. ควบคุมปริมาณแอลกอฮอล์

แอลกอฮอล์มีประโยชน์ต่อสุขภาพในปริมาณเล็กน้อย แต่อาจเป็นอันตรายได้หากดื่มมากเกินไป ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปสามารถทำให้เกิดไขมันหน้าท้องได้ ดังนั้นการลดแอลกอฮอล์หรืองดดื่มไปเลย อาจช่วยให้ลดขนาดหน้าท้องของเราได้

4. กินอาหารที่มีโปรตีนสูง

โปรตีนเป็นสารอาหารที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการควบคุมน้ำหนัก การบริโภคโปรตีนสูงจะเพิ่มการปลดปล่อยเปปไทด์ฮอร์โมน ซึ่งจะลดความอยากอาหารและส่งเสริมความอิ่ม นอกจากนี้โปรตีนยังเพิ่มอัตราการเผาผลาญของเราและช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อระหว่างการลดน้ำหนัก ซึ่งแหล่งรวมโปรตีนที่ดี ได้แก่

  • อกไก่
  • ปลา
  • ไข่ไก่
  • นมโปรตีน
  • เวย์โปรตีน
  • ถั่วต่าง ๆ

5. ลดระดับความเครียดลง

ความเครียดสามารถทำให้เราอ้วนขึ้นได้ โดยความเครียดจะเข้าไปกระตุ้นต่อมหมวกไตให้ผลิตคอร์ติซอล หรือที่เรียกว่าฮอร์โมนความเครียด การวิจัยแสดงให้เห็นว่าระดับคอร์ติซอลสูงจะเพิ่มความอยากอาหารและกระตุ้นการสะสมไขมันในช่องท้อง ยิ่งไปกว่านั้น ผู้หญิงที่มีเอวที่ใหญ่อยู่แล้วมักจะผลิตคอร์ติซอลมากขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความเครียด คอร์ติซอลที่เพิ่มขึ้นจะเพิ่มไขมันบริเวณหน้าท้อง เพื่อช่วยลดไขมันหน้าท้อง ให้ทำกิจกรรมที่คลายความเครียด การฝึกโยคะหรือทำสมาธิ หรือบอกลาความเครียด ด้วยการออกกำลังกาย ก็สามารถทำได้เช่นกัน

ท่าออกกำลังกาย ลดพุง ลดไขมันหน้าท้อง

1. ท่า Burpees

การเราต้องการลดไขมันหน้าท้อง ลดพุง ให้ออกกำลังกล้ามเนื้อให้ได้มากที่สุด หนึ่งในนั้นคือท่า Burpees คือการเปลี่ยนจากท่าวิดพื้นเป็นกระโดดและกลับสู่ท่าวิดพื้น

วิธีทำ

1 .ยืนโดยให้เท้าแยกออกจากกันในระยะไหล่

2. นั่งยอง ๆ ฝ่ามือแตะพื้นทั้งสองข้าง

3. ส่งสะโพกไปด้านหลัง ให้แขนประครองอยู่กับที่ จากนั้นสู่ท่าเตรียมวิดพื้น

4. วิดพื้น 1 ครั้ง

5. กลับมาอยู่ในที่ที่ 2

6. กระโดดขึ้นสูง พร้อมกับยกแขนอยู่เหนือศีรษะ นับเป็น 1 ครั้ง

ฝึกท่านี้อย่างน้อย 10 – 15 ครั้ง ทั้งหมด 3 เซต หรือตามความสามารถของร่างกาย ในช่วงแรกอาจเริ่มทำจากช้า ๆ ก่อน

2. ท่านักปีนเขา

ท่านี้จะทำได้ยากสำหรับคนอ้วน หรือมีน้ำหนักมาก แต่สามารถทำได้ สิ่งสำคัญคือจะเน้นที่กล้ามเนื้อหน้าท้อง

วิธีทำ

1. เข้าสู่ท่าเตรียมวิดพื้นโดยให้ข้อมืออยู่ใต้ไหล่โดยตรง รักษาแกนของลำตัวให้แน่น

2. ดันเข่าขวาไปที่หน้าอกแล้วนำกลับมาที่ท่าเตรียมวิดพื้น จากนั้นเคลื่อนเข่าซ้ายเข้าหาหน้าอกแล้วดึงกลับมา ท่าเตรียม นับเป็น 1 ครั้ง

ฝึกท่านี้อย่างน้อย 10 – 15 ครั้ง ทั้งหมด 3 เซต หรือตามความสามารถของร่างกาย ในช่วงแรกอาจเริ่มทำจากช้า ๆ ก่อน

3. ท่า Kettlebell Swing

การเหวี่ยงลูกตุ้มน้ำหนักอาจเป็นหนึ่งในแบบฝึกหัดการเผาแคลอรี่ที่ดีที่สุด ในการขับเหวี่ยงลูกบอลเหล็กหนัก ๆ เช่น บั้นท้ายสะโพก หน้าท้อง และกล้ามเนื้อสี่ส่วน

วิธีทำ

1. ยืมตัวตรงแยกเท้ากว้างประมาณหัวไหล่

2. ก้มเล็กน้อย จับลูกตุ้มน้ำหนักไว้ใต้หว่างขา

3. ผลักสะโพกไปด้านหลัง พร้อมกับเหวี่ยงลูกตุ้มน้ำหนักไปหลัง โดยให้แขนตึง

4. ออกแรงให้ขาช่วยดีดลูกตุ้มน้ำหนักไปด้านหน้า ให้อยู่ในระดับสายตา

ให้ทำ 1 นาที พัก 1 นาที ทำทั้งหมด 3 เซต

4. ท่าวิ่งบนทางลาด

การวิ่งบนทางลาดเอียงจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญแคลอรี่โดยรวมได้มากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ หากใครไม่มีลูกวิ่ง หรือเนินเขา สามารถเข้ายิมฟิตเนส เพื่อไปวิ่งไได้ นอกจากนี้ยังสามารถสั่งซื้อได้ที่หน้าเว็บของเราค่ะ

วิธีทำ

1. ให้เริ่มเดินบนลู่วิ่ง 5 – 10 นาที เพื่อวอร์มอัพร่างกาย

2. เริ่มวิ่งเหยาะ ๆ บนทางลาด 5 – 10 นาที จากนั้นจ๊อกกิ้งพื้นราบ อีก 5 – 10 นาที จากนั้นเพิ่มความเร็วขึ้น และเริ่มวิ่งบนทางลาดอีกครั้ง ไม่จำเป็นต้องวิ่งเร็วที่สุด แต่ให้วิ่งในระดับที่พอดี ให้วิ่งจนถึงระบดับที่ไม่สามารถสนทนาได้

3. จากนั้นลดความเร็วลงเป็นการวิ่งเหยาะ ๆ ทำสลับกับการวิ่งจ๊อกกิ้ง 5 – 10 นาที

วิ่ง 5 – 10 นาที อย่างน้อย 30-45 นาที

5. ท่า Plank

ท่าฝึกความอดทนระหว่างแขน ลำตัว และปลายเท้า ซึ่งเป็นท่ายากที่จะอยู่ให้ได้นานสำหรับบางคน แต่สามารถทำได้แน่นอนค่ะ

วิธีทำ

1. นอนคว่ำหน้าลงกับพื้นโดยวางปลายเท้า แขน และบริเวณข้อศอกกับมือทั้งสองข้างบนพื้น

2. เกร็งลำตัวขนานกับพื้น และค้างไว้ให้ได้นานอย่างน้อย 20 วินาที พัก 10 วินาที

ทำซ้ำอย่างน้อย 3 เซต

6. ท่า Jumping Jacks

ท่านี้เป็นท่าสุดคลาสสิกใช้ได้ทั้ง วอร์มอัพ และท่าออกกำลังกาย ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ดี และยังช่วยเผาผลาญไขมันได้อย่างยอดเยี่ยม แถมยังดีต่อหัวใจช่วยให้หัวใจแข็งแรงด้วยค่ะ

วิธีทำ

1. ยืนโดยให้เท้าชิดกันและวางมือไว้ข้างลำตัว

2. กระโดดขึ้นให้สูงแยกเท้าออกให้กว้าง พร้อมกับยกแขนขึ้นหนือศรีษะ มือตบกัน

3. กลับมาอยู่ในท่าเริ่มต้น นับ 1

ทำซ้ำอย่างน้อย 30 วินาที พัก 10 วินาที ทำทั้งหมด 3 เซต

7. ท่า Jump squat

เป็นท่าออกกำลังกายที่เผาผลาญได้ดีอีกหนึ่งท่า และช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อได้หลายส่วน นอกจากนี้ยังเป็นท่าที่กระชับสัดส่วนได้ดี

วิธีทำ

  1. เริ่มต้นด้วย ยืนตัวตรง จากนั้นกางขาออกเล็กน้อยประมาณช่วงหัวไหล่
  2. งอเข่าลงเล็กน้อย มือประสานกันไว้ทั้งสองข้างโดยให้ข้อศอกตั้งฉาก 90 องศา
  3. กระโดดขึ้น ให้สูง จากนั้นกางแขนออกในแนวดิ่ง ทำทั้งหมด 12 ครั้ง หรือตามที่เราจัดไว้ค่ะ

8. ท่า Lying Leg Raises

การนอนยกขาเป็นการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนล่าง กล้ามเนื้อสะโพก และกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง ช่วยปรับปรุงความมั่นคงและความสมดุลของร่างกาย รวมถึงช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของการเคลื่อนไหวในข้อสะโพกอีกด้วย

วิธีทำ

  1. นอนหงาย และให้วางมือไว้ที่บริเวณก้นโดยให้ก้นวางทับมือ เพื่อช่วยลดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อกลัง
  2. เท้าชิดกันและยกขาขึ้นเร็ว ๆ ทำมุม 90 องศา ให้หลังตรงห้ามงอหลัง และให้เกร็งหน้าท้องไปด้วย (ในจังหวะที่ยกขาขึ้นให้หายใจเข้า)
  3. ค่อย ๆ วางขาลง พร้อมกับหายใจออก

ทำทั้งหมด 3 เชต 10 – 20 ครั้ง

“20 Exercises to Help You Lose Belly Fat ” (www.menshealth.com)

“15 Best Exercises to Burn Belly Fat” (www.prevention.com)

“18 Effective Tips to Lose Belly Fat” (www.healthline.com)

You may also like...

error: Content is protected !!